แมงดาถ้วย
แมงดาถ้วย หรือ
แมงดาทะเลหางกลม เป็นแมงดาทะเลชนิดหนึ่ง
จัดเป็นเพียงชนิดเดียวที่อยู่ในสกุล Carcinoscorpius
มีรูปร่างกลมและกระดองนูนเหมือนชามหรือถ้วยคว่ำ
ทางด้านหัวโค้งกลม หางเรียวยาวเป็นทรงกลม กระดองมีสีเขียวเหลือบเหลืองคล้ำ ใช้สำหรับปักลงกับพื้นท้องทะเล
เมื่อต้องการนอนนิ่งอยู่กับที่ หรือใช้พลิกตัวเมื่อนอนหงายท้อง
พบอาศัยในทะเลโคลนแถบป่าชายเลนหรือปากแม่น้ำ อาจพบได้ในเขตน้ำกร่อยหรือน้ำจืดได้
ขนาดเมื่อโตเต็มที่ยาวประมาณ 40 เซนติเมตร รวมหาง
ในบางครั้งแมงดาถ้วยบางตัวและในบางฤดูกาล อาจมีสีกระดองสีแดงเหลือบส้ม
และมีขนที่กระดองและบางส่วนของลำตัว ซึ่งแมงดาถ้วยแบบนี้จะเรียกว่า เหรา (/เห-รา/)
หรือ ตัวเหราหรือแมงดาไฟ
พบกระจายไปทั่วในชายฝั่งทะเลอินเดียจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก
ในประเทศไทยพบได้ทุกจังหวัดที่ติดกับทะเล แมงดาทะเลชนิดนี้ทั้งเนื้อและไข่มีพิษทุกฤดูกาล
จึงไม่ควรนำมาบริโภคอย่างเด็ดขาด สาเหตุของการเกิดพิษในตัวแมงดาทะเลนั้น
สันนิษฐานว่ามาจาก 2 สาเหตุ คือ
เกิดจากการที่ตัวแมงดาไปกินแพลงก์ตอนที่มีพิษเข้าไป
ทำให้สารพิษไปสะสมอยู่ในเนื้อและไข่ และตัวแมงดาเองมีพิษซึ่งเกิดจากแบคทีเรียในลำไส้สร้างพิษขึ้นมาได้เอง
โดยอาการเมื่อรับพิษเข้าไป คือ มีอาการชาที่ริมฝีปาก มือและเท้า เวียนศีรษะ
คลื่นไส้ อาเจียน เดินเซ แขนขาไม่มีแรง พูดไม่ออก กลืนลำบาก หายใจไม่ออก
กล้ามเนื้อเกี่ยวกับการหายใจเป็นอัมพาต เนื่องจากเป็นพิษที่ผลต่อระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ
ในเด็กเล็กจะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้[2]
จากการที่แมงดาถ้วย
สามารถปรับตัวให้อยู่ในน้ำกร่อยหรือน้ำจืดได้
จึงมักพบการค้าขายแมงดาถ้วยเป็นสัตว์เลี้ยงในตลาดปลาสวยงามเสมอ ๆ
โดยผู้ขายมักหลอกผู้ซื้อว่า เลี้ยงในน้ำจืดได้ แต่ทว่าเมื่อนำมาเลี้ยงจริง ๆ แล้ว
แมงดาจะอยู่ได้เพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้นก่อนที่จะตายไปในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น